top of page

ทำไมเราต้องอนุรักษ์ปลานกแก้ว ?

 

 

 

 

    งานวิจัยระยะยาวโดยดร.ปีเตอร์ มัมบี้ แห่งมหาวิทยาลัยควีนส์แลนด์และคณะที่ตีพิมพ์ในวารสาร Conservation

Letter (2013) พบว่าแนวปะการังในเขตที่ไม่มีการจับปลา (No-take areas) โดยเฉพาะแนวที่มีจำนวนปลานกแก้ว
อุดมสมบูรณ์สามารถฟื้นตัวจากปรากฎการณ์ฟอกขาวได้เร็วกว่าแนวปะการังอื่นนอกเขตอนุรักษ์ถึง 6 เท่า

 

งานวิจัยชื้นนี้ใช้ข้อมูลสถานภาพแนวปะการังและประชากรปลาในเขตอนุรักษ์และนอกเขตอนุรักษ์ ที่ประเทศเบลิซ ในอเมริกากลาง แล้วนำมาทำโมเดลพยากรณ์การฟื้นตัวของปะการังในระยะยาว ผลปรากฎว่าแนวปะการังนอกเขต

อนุรักษ์ที่มีกิจกรรมการประมงมีโอกาสฟื้นตัวภายในปี 2030 เพียง 12% เท่านั้น ในขณะที่ภายในเขตอนุรักษ์ที่ยังมีประชากรปลานกแก้วมีโอกาสฟื้นตัวสูงถึง 79% หรือสูงกว่า 6 เท่า ในกรณีที่ปะการังไม่ฟื้นตัวนานๆ ก็มีโอกาสเป็นไปได้สูงที่แนวปะการังบริเวณนั้นจะเสื่อมโทรมและอาจเปลี่ยนผ่านกลายเป็นระบบนิเวศที่มีสาหร่ายขึ้นคลุมแทนที่

 

  ผศ.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ หัวหน้าภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวว่า
"ปลานกแก้วทุกตัวมาจากการประมงที่ผิดกฎหมาย" ดร.ธรณ์ ฟันธง ทั้งนี้เพราะปลานกแก้วมีถิ่นอาศัยอยู่ในแนวปะการัง และแนวปะการังแทบทั้งหมดในประเทศไทยมีกฎหมายคุ้มครอง

 

 "แนวปะการังมากกว่าครึ่งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ ซึ่งกฎหมายอุทยานแห่งชาติ คงไม่ต้องพูดถึงว่าทำการประมง
ได้หรือเปล่า ขนาดเก็บหินยังไม่ได้เลย แล้วแนวปะการังที่อื่นๆ อย่างภูเก็ต กระบี่ หรือแม้กระทั่งเกาะล้านก็มีกฎหมาย
สิ่งแวดล้อมที่จังหวัดประกาศออกมาว่าเป็นเขตคุ้มครองห้ามจับสัตว์น้ำ เพราะฉะนั้นเรียกว่าแนวปะการังเกือบทั้งหมด
ในประเทศไทยเป็นเขตคุ้มครอง ซึ่งปลานกแก้วมันอาศัยอยู่เฉพาะในแนวปะการัง เราไม่เจอปลานกแก้วตามป่าชาย
เลนหรือทะเลทั่วไป ดังนั้นแม้ว่าการจับปลานกแก้วจะไม่ผิดกฎหมาย แต่พื้นที่ที่ปลานกแก้วอยู่อาศัยเกือบทั้งหมดอยู่ในเขตคุ้มครองห้ามจับสัตว์น้ำ" อ. ธรณ์ อธิบาย

 

    ปลานกแก้วที่วางขายอยู่ตามตลาดปลาหรือแม้แต่ซุปเปอร์มาเก็ตใหญ่ๆ จึงมีที่มาแบบไม่ถูกต้องอย่างแน่นอน
ถึงอย่างนั้นด้วยช่องโหว่เล็กๆ ของกฎหมายที่ไม่สามารถเอาผิดผู้ขายปลานกแก้วได้ พวกมันจึงได้ไปอวดโฉมอยู่ตามที่ต่างๆ แทนที่จะเป็นในทะเล และเมื่อสอบถามพ่อค้าหัวใสบางรายก็จะบอกว่าเป็น "ปลาเลี้ยง"

 

"มันไม่ใช่ปลาเศรษฐกิจหลักๆ เหมือนปลากระพงหรืออะไร เรื่องของการศึกษาในการเพาะเลี้ยงมันก็ไม่มี แล้วมันก็เป็นปลาที่ต้องอยู่ในแนวปะการัง กินพวกสาหร่ายและปะการังตาย เป็นปลาที่ใช้พื้นที่ในการหากินเยอะ ทำให้การเพาะเลี้ยงนั้นยากมาก"

 

  อ.ธรณ์ อธิบายเพิ่มเติมว่า ปลานกแก้ว เป็นปลากินพืชในแนวปะการังที่โดดเด่นกว่าปลาอื่นๆ ตรงที่นอกจากมันจะช่วยกินสาหร่ายแล้ว ยังกินซากปะการังตายและถ่ายออกมาเป็นทราย

"ทรายพวกนี้ก็จะสะสมอยู่ในแนวปะการัง อย่าลืมว่าแนวปะการังถ้าไม่มีทรายก็พัง ข้อที่สองทรายพวกนั้นก็จะเข้ามาเติมทรายที่ชายหาดด้วย ชายหาดก็จะมีสีขาวสวยงามเป็นแหล่งท่องเที่ยว อย่างที่เกาะตาชัย เกาะสิมิลัน ทรายพวกนั้นก็มีส่วนหนึ่งมาจากปลานกแก้ว ซึ่งอันนี้เป็นกรณีพิเศษ 

ผลของการเกิดปะการังฟอกขาว

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

   สถานการณ์ปะการังฟอกขาวที่ยังไม่ลดความรุนแรงในหลายจุดของอ่าวไทย ผลกระทบที่เกิดขึ้นเป็นผลโดยตรงจากอุณหภูมิที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างผิดปกติติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน ซึ่งปรากฏการณ์ปะการังฟอกขาวจากการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิน้ำทะเลเกิดขึ้นมาหลายครั้งแล้วในประเทศไทย มีแนวโน้มที่จะเกิดบ่อยขึ้นและรุนแรงขึ้น ปี 2553 นับเป็นครั้งที่เกิดปะการังฟอกขาวรุนแรงที่สุด ซึ่งทำให้ปะการังแข็งแถบอันดามันตายไปราว 70%
  นักวิทยาศาสตร์เตือนไว้นานแล้วว่าแนวปะการังอันตระการตาที่เรารู้จักจะเป็นระบบนิเวศแรกๆที่อาจจะเสื่อมสภาพไปอันเป็นผลโดยตรงจากสภาวะโลกร้อน เพราะปะการังเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีความอ่อนไหวต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมอย่างยิ่ง น้ำอุ่นเกินไป เย็นเกินไป ความเค็มไม่เหมาะ ความเป็นด่างไม่ได้ ตะกอนมากเกิน ล้วนเป็นสาเหตุให้ปะการังไม่สามารถดำรงอยู่ได้ ครั้นเมื่อปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สะสมอันเกิดจากกิจกรรมของมนุษย์ที่เพิ่มสูงสุดในประวัติศาสตร์สิ่งที่ตามมาคือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งส่งผลให้อุณหภูมิน้ำทะเลบางฤดูกาลสูงขึ้นผิดปกติ

 

  แนวทางที่ดีที่สุดในการช่วยปะการังรับมือกับสภาวะโลกร้อนก็คือ การปกปักรักษาแนวปะการังธรรมชาติให้แข็งแรงที่สุด ด้วยการอนุรักษ์ปลาในแนวปะการังและป้องกันผลกระทบจากการท่องเที่ยวและการพัฒนาชายฝั่ง เพราะแนวปะการังที่หลากหลายสมบูรณ์ มีประชากรปลาหนาแน่น ย่อมหมายความว่าแนวปะการังนั้นๆจะมีต้นทุนในการรับมือกับปรากฎการณ์ฟอกขาวได้ดีขึ้น คือสามารถต้านทานการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิได้ดีกว่า และมีโอกาสฟื้นตัวได้เร็วกว่าปะการังที่อยู่ในสภาพเสื่อมโทรมและอ่อนแอ 

bottom of page