

ปัจจุบันปะการังในคาริบเบียนลดจำนวนลงกว่า 50% ในช่วง 40 ปีที่ผ่านมา แนวปะการังส่วนใหญ่ตอนนี้ถูกสาหร่ายขึ้นปกคลุมซึ่งมีสาเหตุสำคัญมาจากการหายไปของปลานกแก้ว และปัญหาการเสื่อมโทรมของแนวปะการังในคาริบเบียนคือการจับปลาที่มากเกินไป ไม่ใช่มลภาวะหรือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ
งานวิจัยระยะยาวทางวิทยาศาสตร์สำคัญหลายชิ้นทั้งในออสเตรเลีย คาริบเบียน และในประเทศไทยเอง บ่งชี้ตรงกันว่าวิธีที่ดีที่สุดในการช่วยอนุรักษ์ปะการังและฟื้นฟูแนว ปะการังที่เสื่อมโทรมคือการอนุรักษ์พันธุ์ปลาในแนวปะการัง โดย เฉพาะกลุ่มปลานกแก้ว (parrotfish)
แต่ปัจจุบันเริ่มมีการนำปลานกแก้วมาจำหน่ายเชิงพาณิชย์มากขึ้นเรื่อยๆ ดังจะเห็นได้ว่ามีการพบปลานกแก้วมาวางขายเป็นประจำในห้างร้านขนาดใหญ่ที่มีสาขาเป็นจำนวนมาก หากปล่อยให้ปลานกแก้วกลายเป็นปลาที่นิยมในการบริโภค เชื่อได้เลยว่าอีกไม่นาน ปลานกแก้วจะลดจำนวนลงจนไม่อาจทำหน้าที่รักษาระบบนิเวศปะการังได้อีกต่อไป
แต่เราทุกคนสามารถช่วยอนุรักษ์ปลานกแก้วได้ เพียงแค่เริ่มต้นโดยการหยุดซื้อ หยุดกิน หยุดขายปลานกแก้ว ปรับเปลี่ยนความคิดและพิจารณาก่อนบริโภคว่าสิ่งนั้นมีผลกระทบต่อระบบนิเวศหรือไม่ และหันมาร่วมกันสร้างจิตสำนึก
ที่ดีและผลักดันให้อนุรักษ์ปลานกแก้วไปพร้อมกับระบบนิเวศแนวปะการังอย่างจริงจังเพื่ออนาคตทะเลไทยที่สวยงามของพวกเราทุกคน





